TikTok คลื่นลูกใหม่ที่ลุกลาม Search Engine เบอร์ 1 อย่าง Google
สวัสดีครับทุกคน ก่อนหน้านี้เรามักจะเห็นข่าวว่า TikTok ได้ช่วงชิงเวลาการใช้งานจากหน้าจอของผู้บริโภคไปอย่างมาก โดยเฉพาะกับ Application ประเภท Video Content อย่าง YouTube และ Instagram เช่นเดียวกับในมิติของรายได้และผู้ใช้งาน ซึ่ง Platform จาก Bytedance อย่าง TikTok ก็ยังเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับเจ้าตลาดอย่าง Facebook ที่รายได้และจำนวนผู้ใช้งานกลับลดลงจนน่าตกใจ
แต่จริงๆแล้วยังมีอีก 1 Application ที่ได้รับผลกระทบแบบที่ไม่มีใครได้กล่าวถึง นั่นก็คือ Google Search และ Google Maps อาจเพราะด้วยแก่นหลักของตัว Application ที่ไม่ได้มี Feature การใช้งานที่ใกล้เคียงกัน หรือ การวาง Position ในตลาดที่ไม่ได้จัดว่าเป็นคู่แข่งกันด้วยซ้ำ แต่จากคำพูดของ Prabhakar Raghavan รองประธานอาวุโสของ Google ผู้มีหน้ารับผิดชอบในเรื่องเกี่ยวกับ ความรู้และข้อมูลขององค์กร ได้ออกมายอมรับในงานเสวนา Fortune’s Brainstorm Tech ไว้ว่า
“จากการศึกษาของเรา คนหนุ่มสาวเกือบ 40% ที่มองหาร้านอาหารกลางวัน พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ใช้บริการ Google Maps หรือ Google Search อีกต่อไป เขาเลือกที่จะไปที่ TikTok และ Instagram แทน”
ในการศึกษาครั้งนี้ พบว่า กลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 – 24 ในประเทศอเมริกา มีพฤติกรรมที่แตกต่างจากเดิม แม้แต่วิธีการที่เขาเหล่านี้ใช้ค้นหาร้านอาหาร ก็ไม่ใช่รูปแบบของการพิมพ์ Keyword แบบเดิมที่กลุ่มผู้ใช้งานเคยใช้กัน แต่เขาเหล่านี้กลับเปลี่ยนพฤติกรรมการค้นหาไปในรูปแบบอื่นที่มีความน่าสนใจมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น การดูรูป หรือ วีดิโอ ที่มีผู้ใช้งานคนอื่นเคยลงไว้ในสถานที่นั้นๆ
และ 1 ในสาเหตุที่น่าสนใจที่สุดคือ กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มนี้ ไม่เคยเห็นแผนที่ที่เป็นกระดาษมาก่อน ใช่ครับ มันคือเหตุผลนี้จริงๆครับ (ถ้าใครรู้สึกแก่หลังจากอ่านประโยคนี้ ไม่เป็นไรนะครับ เราคือเพื่อนกัน) ซึ่งก็ชัดเจนเลยว่า Google Maps ที่ทำหน้าที่เหมือนกับการย่อ แผนที่แบบกระดาษมาไว้ในโทรศัพท์ ไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มนี้อีกแล้ว
ดังนั้นในพักหลัง เราจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในการใช้บริการ Google Search และ Google Maps เช่น รูปลักษณ์ของผลลัพธ์ของการเสิร์ชที่ต่างไป เช่น การแสดงผลลัพธ์ของการเสิร์ชเป็น Video ที่มาจาก TikTok หรือ Instagram มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องผลลัพธ์ของการเสิร์ชแต่ AI Technology ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังในการวิเคราะห์ข้อมูลบน Video ก็จำเป็นจะต้องถูกพัฒนาตามไปด้วย
จะเห็นได้ว่าแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Google ยังส่งสัญญานถึงการขยับตัวและผลกระทบจากคลื่นลูกใหม่ที่ชื่อว่า TikTok ซึ่งในอนาคต เราอาจได้เห็นการ Disrupt ครั้งใหญ่ในวงการ Technology ด้วยกันเองก็เป็นไปได้นะครับ เพราะฉะนั้นกับตัวเราเองในฐานะของผู้สร้างและผู้เสพย์ Content เราก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะปรับตัวตามคลื่นลูกใหญ่แห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อไป
Sources : https://www.prdaily.com/research-shows-that-tiktok-has-an-edge-over-instagrams-reels/
https://gizmodo.com/tiktok-got-more-traffic-than-freakin-google-in-2021-1848252058