Skip links

รับมือความท้าทายปี 2025 ด้วยโมเดล 4R และ Data Tech พลิกเกมกลยุทธ์สร้างธุรกิจยั่งยืน

สรุปไฮไลท์ พลิกเกมธุรกิจ จากวิกฤตสู่ความสำเร็จ ด้วยเทคโนโลยี ข้อมูลและกลยุทธ์โมเดล 4R ที่คุณต้องรู้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน จากงานสัมมนาที่ RealSmart ได้ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จัดงานสัมมนา ‘The Art of Brand Protection’ เพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการปกป้องแบรนด์ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย จุดประกายไอเดียแนะกลยุทธ์การตอบสนองเมื่อเผชิญวิกฤต และการจัดการกับสถานการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นกับแบรนด์ได้อย่างมืออาชีพ 

ถ้าถามว่า “วิกฤตคืออะไร?” หลายคนอาจนึกถึงภาพเหตุการณ์ใหญ่โต เสียหายรุนแรง แต่จริง ๆ แล้ว วิกฤตอาจเริ่มจากประเด็นเล็ก ๆ ที่ไม่ได้คาดคิด เช่น การสื่อสารผิดพลาด ความเข้าใจไม่ตรงกัน หรือเหตุการณ์ที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่กลับขยายตัวกลายเป็นประเด็นใหญ่เพียงชั่วพริบตา 

โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ข่าวสารแพร่กระจายรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง การจัดการวิกฤตจึงไม่ใช่เรื่องของการ “แก้ปัญหา” เท่านั้น แต่คือการควบคุมไม่ให้เรื่องเล็ก ๆ บานปลายไปสู่ความเสียหายที่ใหญ่กว่า 

ในปี 2025 นี้ การจัดการวิกฤตจะกลายเป็นทักษะที่ธุรกิจทุกขนาดต้องมีติดตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจเล็กหรือองค์กรใหญ่ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  ปัญหาข้อมูลหลุดรั่ว ข่าวปลอม หรือแม้แต่คำวิจารณ์จากชาวเน็ต หรือผู้บริโภคที่อาจไม่ถูกต้องในโลกโซเชียล

วิกฤต..เพื่อนหรือศัตรู? 

หลายครั้งเราเห็นแบรนด์ที่กำลังไปได้สวยต้องสะดุดเพราะวิกฤตเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง แต่ในทางกลับกัน เราก็เคยเห็นธุรกิจที่กลับมาสดใสได้เพราะการจัดการวิกฤตที่ชาญฉลาด เช่น ร้านกาแฟที่ขอโทษลูกค้าและเสนอโปรโมชั่นคืนกำไรให้ชุมชน หรือบริษัทใหญ่ที่ใช้เหตุการณ์วิกฤตมาเป็นโอกาสในการแสดงถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม คำถามคือ เราเลือกจะมอง “วิกฤต” เป็นศัตรูที่ทำลายความสำเร็จ หรือเป็นเพื่อนที่ทดสอบความแข็งแกร่งของเรากันแน่?

การจัดการวิกฤต..แค่ดับไฟหรือวางแผนเพื่ออนาคต? 

ในเมื่อทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ เราจะรับมือกับมันยังไง? การจัดการวิกฤตไม่ได้หมายความว่าเราต้องคอย “ดับไฟ” ทุกครั้งที่มันลุกขึ้นมา แต่คือการเตรียมตัวให้พร้อมล่วงหน้า การฝึกทีมงาน การมีแผนฉุกเฉิน และที่สำคัญคือการเฝ้าระวัง (Monitoring) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถจับปัญหาได้ตั้งแต่ต้น 

ลองคิดดูนะครับว่า หากวันหนึ่งสินค้าของคุณได้รับรีวิวเชิงลบจากลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย สิ่งที่คุณต้องทำไม่ใช่แค่การออกมาขอโทษเท่านั้น แต่คือการสร้างกระบวนการรับมือที่มีระบบ เช่น การมีทีมตอบคำถามอย่างมืออาชีพ รวบรวมข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และเสนอทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า การตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีแผนเชิงรุกจะทำให้คุณสามารถควบคุมสถานการณ์และลดผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เทคโนโลยีตัวเปลี่ยนเกมปี 2025 ส่งผลช่วยจัดการวิกฤต

ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการจัดการวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AIช่วยตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการสืบค้นข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย หรือการใช้ Social Listening Tools เพื่อเฝ้าระวังแนวโน้มและความคิดเห็นที่อาจเป็นตัวจุดประกายวิกฤต การใช้เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจมีโอกาส “ตรวจจับ” วิกฤตได้ก่อนที่มันจะลุกลาม 

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ธุรกิจในปี 2025 จำเป็นต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างเช่น การใช้ ระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อตอบคำถามลูกค้าอย่างทันท่วงที หรือ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคและรับมือกับแนวโน้มที่อาจกลายเป็นวิกฤตได้

โซเชียลมีเดีย จุดเล็กๆ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว 

ทุกวันนี้วิกฤตส่วนใหญ่เกิดจากโซเชียลมีเดีย ข่าวสาร กระแส หรือคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นบนออนไลน์สามารถแพร่กระจายได้เร็วอย่างน่าทึ่ง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ร้านอาหารที่ถูกลูกค้าโพสต์ตำหนิเรื่องบริการ ลูกค้าคนหนึ่งอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ถ้าเกิดเรื่องนี้ถูกแชร์และมีคอมเมนต์มากมาย มันสามารถลุกลามเป็นประเด็นที่ใหญ่กว่าที่เราคิดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง การจัดการกับโซเชียลมีเดียคือการเตรียมตัวและการตอบสนองอย่างมีสติ แบรนด์ที่สามารถยืนหยัดได้ในโลกออนไลน์ไม่ใช่แบรนด์ที่ไม่เคยโดนวิจารณ์ แต่เป็นแบรนด์ที่รู้วิธีจัดการกับคำวิจารณ์นั้นอย่างโปร่งใสและสร้างสรรค์

โมเดล 4R แผนจัดการวิกฤต เตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ 

โมเดล 4R จะช่วยกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจน ทำให้คุณพร้อมรับมือกับวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  1. Readiness (ความพร้อม)  – เตรียมพร้อมทีมงานและระบบการจัดการตั้งรับเชิงรุกก่อนเกิดวิกฤตอยู่เสมอ
  2. Radar (เรดาร์) – เฝ้าระวัง ตรวจจับสัญญาณ ติดตามสถานการณ์ในสื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างใกล้ชิด
     
  3. Response (การตอบสนอง)– ตอบสนองต่อประเด็นปัญหาและสถานการณ์วิกฤตได้อย่างรวดเร็วตามแบบฉบับมืออาชีพ
     
  4. Recovery (การฟื้นฟู) – รวบรวมรายงานเพื่อออกแบบกลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของแบรนด์ให้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุดโดยดำเนินงานตามแผนงานและติดตามประเมินผลสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 

ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ในโลกที่ไม่แน่นอน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ “การเปลี่ยนแปลง” และการเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น การยอมรับว่าวิกฤตสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และการสร้างแผนรองรับอย่างดีเป็นการป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นจุดจบของธุรกิจเรา และอย่าลืมว่า การจัดการวิกฤตไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการเรียนรู้เพื่อเติบโตในอนาคตด้วย