ประกันภัยโควิด-19 ของอาคเนย์ประกันภัยที่ชื่อว่า “เจอ จ่าย จบ” ดึงดูดให้คนไทยจำนวนมากต่างพากันทำประกันนี้ไว้ หากคุณติดโควิดมีผลยืนยันออกมา ทำการยื่นเรื่องต่อทางอาคเนย์ก็จะได้รับเงินตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่กลายเป็นว่าประกันโควิดเป็นปัญหาสำหรับบริษัทแทนเพราะไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ทำประกันภัยได้ ในที่สุดอาคเนย์ประกันภัยได้ประกาศเลิกกิจการ คนไทยหลายคนโดยเฉพาะผู้ที่ทำประกันภัยนี้ไว้กุมขมับกันถ้วนหน้า และออกมาแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ถึงเรื่องนี้

Real Smart รวบรวมความความคิดเห็น ความรู้สึก และเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากคนไทยผ่าน Social Listening Tools เพื่อวิเคราะห์ประเด็นที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย เริ่มต้นกันที่ Timeline ก่อน

เริ่มกันที่ Timeline ของประเด็นนี้ กราฟดีดตัวพุ่งขึ้นในวันที่ 26 มกราคม 2565 หลังจากที่ Facebook : สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักข่าวชื่อดังระดับประเทศได้โพสต์ว่า “อาคเนย์ประกันภัยนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการ” พร้อมรายละเอียดที่ทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ออกมาชี้แจงต่อประชาชนทำให้ได้รับความสนใจไม่น้อย 

ต่อมากราฟดิ่งตัวลงอย่างรวดเร็วช่วงวันที่ 27 มกราคม 2565 ช่วง 06.00 น. ทาง Facebook : Reporter Journey ได้โพสต์รายงานข่าวเกี่ยวกับ คปภ. สั่งอาคเนย์ห้ามเลิกกิจการ และยันว่าทุกกรมธรรม์ยังได้รับความคุ้มครอง รวมถึงชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆและต่อมาช่วงเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน Facebook : นสพ. แนวหน้า โพสต์เกี่ยวกับ คปภ.ยืนยันทุกกรมธรรม์ได้รับความคุ้มอยู่ ทางอาคเนย์ประกันภัยยื่นเรื่องต่อ คปภ. เพื่อพิจารณา และต้องดำเนินการเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย

ช่วง 12.00 น. กราฟพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ Facebook : Positioning Magazine Online โพสต์ถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับอาคเนย์ประกันภัยตั้งแต่การยื่นเรื่องขอเลิกกิจการจนถึงรายละเอียดยิบย่อยของประเด็นนี้ หลังจากนั้นกราฟเริ่มตกลงเรื่อย ๆ จนถึงช่วงเวลา 21.00 น. ได้มีผู้ Tweet ว่าอาคเนย์เล็งแต่กำไรจากผู้ซื้อประกัน แต่ดันผิดพลาดเพราะผู้ติดเชื้อสูงกว่าที่คาดไว้

ต่อมาเรามาดูภาพรวมความรู้สึกของคนไทยในโลกออนไลน์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ในภาพรวมของความรู้สึกหลังจากที่ได้ใช้ Social Listening รวบรวมมานั้นพบว่าไม่มี Positive Sentiment (ความเห็นเชิงบวก) เกี่ยวกับอาคเนย์ประกันภัยเลย แต่ไปในทางชื่นชมต่อ คปภ. แทนซะมากกว่า ในส่วนของ Neutral Sentiment (ความเห็นเชิงทั่วไป) และ Negative Sentiment (ความเห็นเชิงลบ) ไปในทิศทางเดียวกัน  ทีนี้มาเจาะลึกลงไปในแต่ละกลุ่มความรู้สึกกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

ในส่วนของ Positive Sentiment มีเพียงแค่ 5% ซึ่งไม่ได้เป็นความรู้สึกเชิงบวกถึงอาคเนย์ แต่ออกมาขอบคุณและชื่นชมทาง คปภ. ที่ทำงานเพื่อประชาชนช่วยเหลือผู้ที่ทำประกันภัยกับทางอาคเนย์

Neutral Sentiment มีถึง 54% แม้ว่าจะเป็นความเห็นเชิงทั่วไป แต่กลับพบว่าเป็นมุมมองที่ออกไปเชิงต่อว่าอาคเนย์มากกว่า รวมถึงคำถามที่สงสัยกันว่าใครจะรับผิดชอบเงินประกันทั้งหมด อีกทั้งผู้ที่ทำประกันเสียหายที่สุด และต้องคืนให้ผู้ทำประกันทั้งหมด นอกจากนี้ยังมองว่าทางอาคเนย์ที่ไม่มีการวางแผนใด ๆ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความเสี่ยง โดยเฉพาะการขาดทุนจากประกัน “เจอ จ่าย จบ” อยากให้ทาง คปภ. กำหนดวันคืนเงินกรมธรรม์ให้ผู้ทำประกันโดยเร็วที่สุด ไม่เพียงแค่นั้นมีอู่ซ่อมรถจำนวนมากไม่รับเคลมประกันจากบริษัทอาคเนย์แล้ว

Negative Sentiment มีอยู่ 41% ที่ออกมาต่อว่าทางอาคเนย์ควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่หนีปัญหา เป็นบริษัทประกันภัยแต่ไม่รู้จักประเมินความเสี่ยง ไร้ความรับผิดชอบ ทำให้คนทำประกันกับบริษัทไว้ไม่ได้รับเงินประกันทำให้เสียผลประโยชน์ บริษัทคือคนที่เห็นแก่ตัว พอขาดทุนจากประกันภัยโควิด “เจอ จ่าย จบ” ก็จะหนี และมองว่าทาง คปภ. จะช่วยได้จริง ๆ หรือแค่ทำตามหน้าที่

ต่อมาเรามาเจาะลึกประเด็นที่ได้รับความสนใจจากคนไทยในโลกออนไลน์

จากข้อมูลที่ Real Smart รวบรวมมามีอยู่ 2 ประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ อาคเนย์ประกาศเลิกธุรกิจประกันวินาศภัย และ คปภ. ไม่ได้อนุญาตให้ทางอาคเนย์ประกันภัยเลิกกิจการ หลังจากที่เราได้ดูข้อมูลแล้วนั้นแสดงให้เห็นชัดเลยว่าภาพรวมส่วนใหญ่ที่คนแสดงความคิดเห็นออกมาไปในทิศทางเชิงลบแทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แต่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปในมุมมองและความคิดเห็น ทีนี้มาเจาะลึกลงไปทีละประเด็นเลยว่าคนไทยคิดเห็นอย่างไรกัน

“อาคเนย์ประกาศ เลิกธุรกิจประกันวินาศภัย”โดย Negative Sentiment (ความเห็นเชิงลบ) สูงถึง 65% บอกว่าบริษัทอาคเนย์ได้กำไรจากประกันภัยโควิด “เจอ จ่าย จบ” แต่ไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้เอาประกัน ไร้ความรับผิดชอบมาก หนีปัญหา ส่วน Neutral Sentiment (ความเห็นเชิงทั่วไป) 35% มองว่าพอบริษัทขาดทุนจากประกันภัยก็จะปิดกิจการ ยิ่งทำให้การยื่นเอกสารประกันภัยต่าง ๆ กับบริษัทนั้นยุ่งมากขึ้นไปอีก ต่อไปนี้สำหรับคนที่ทำประกันไว้ต่อไปนี้คงต้องสำรองจ่ายเงินก่อน ส่วนความคิดเห็นเชิงบวกนั้นไม่พบ

“คปภ. ยังไม่ได้อนุญาตให้อาคเนย์ประกันภัยเลิกกิจการ”จะเห็นได้ว่ามี Positive Semtiment (ความเห็นเชิงบวก) 11% ออกมาชื่นชม คปภ.ที่คุ้มครองประชาชนผู้เอาประกัน ส่วน Neutral Sentiment (ความเห็นเชิงทั่วไป) 57% บอกว่าบริษัทต้องคืนเงินต่อผู้ประกันภัยทั้งหมดก่อนถึงจะปิดกิจการได้ อยากให้ทาง คปภ. กำหนดวันคืนเงินกรมธรรม์ต่าง ๆ ให้ผู้เอาประกันโดยเร็ว และ Negatve Sentiment (ความเห็นเชิงลบ) 32% มองว่าทาง คปภ. จะช่วยได้จริง ๆ หรือแค่ทำตามหน้าที่ไปก็เท่านั้น ต่อให้ไม่ได้รับอนุญาตให้ปิดกิจการกว่าจะได้เงินคืนก็ใช้เวลานานอยู่ดี

Top 3 on Facebook Engagement

ในส่วนของสำนักข่าว และนักข่าวยังคงได้รับความสนใจจากผู้คนสูงไม่ว่าจะเป็น “ช่องข่าวรายวัน” และ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่ได้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนทาง “ชอบโปร – ShobPro” สร้างความแปลกใจได้ไม่น้อยกับการที่ได้ engagement ที่สูงขนาดนี้

Top 3 on YouTube Engagement

ส่วนของ YouTube ยังเป็นอีกช่องทางที่คนติดตามข่าวอยู่เช่นกัน โดยที่ทั้ง 2 Channel นั้นเป็นสำนักข่าวชื่อดังย่อมได้รับความสนใจจากผู้คนสูงจากประเด็นนี้

3 สำนักข่าวระดับประเทศนี้ได้รับความสนใจสูง มีคนเข้าเว็บไซต์ไปอ่านเนื้อหาข่าวอาคเนย์ประกันภัยที่ได้ประกาศหยุดกิจการลง โดยอันดับที่ 1 PPTV HD36  อันดับที่ 2 Thai PBS และอันดับที่ 3 Matichon Online

หลังจากนี้ผู้เอาประกันภัยหลายคน รวมถึงผู้ที่มีกรมธรรม์ของอาคเนย์ประกันภัยต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไปทั้งในเรื่องของการคืนเงินกรมธรรม์ รวมถึงการจัดการและดำเนินงานของ คปภ. ที่จะดูแลเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดนี้มาจาก Social listening Tools ที่ทาง Real Smart ได้รวบรวมเพื่อนำมาวิเคราะห์ แยกประเด็นต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจนสามารถรู้ถึงความคิดเห็นและมุมมองของคนไทยได้อย่างชัดเจน

หากใครสนใจเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อย่าลืมกดติดตามเพจกันไว้นะ เพราะข้อมูลดี ๆ ต้องที่ Real Smart เท่านั้น